หน้าหลัก ค้นหา ติดต่อ สมุดโทรศัพท์ การเรียน/การสอน เหตุการณ์ แผนที่เว็บ Thai/Eng
MCU

หน้าหลัก » เจ้าอธิการทองใบ อมโร
 
เข้าชม : ๒๐๐๑๖ ครั้ง
การศึกษาหลักธรรมที่นำไปปฏิบัติเพื่อการหลุดพ้นกิเลสในพระพุทธศาสนาเถรวาท (๒๕๕๔)
ชื่อผู้วิจัย : เจ้าอธิการทองใบ อมโร ข้อมูลวันที่ : ๑๙/๐๗/๒๐๑๒
ปริญญา : พุทธศาสตรมหาบัณฑิต(พระพุทธศาสนา)
คณะกรรมการควบคุมวิทยานิพนธ์ :
  พระครูสังวราภิรักษ์ สํวโร, ดร.
  ผศ.ดร.สุรพงษ์ คงสัตย์
  ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ธวัศชา เดชสุภา
วันสำเร็จการศึกษา : 2554
 
บทคัดย่อ

วิทยานิพนธ์ฉบับนี้มีวัตถุประสงค์การศึกษา คือ (๑) ศึกษากิเลสในพระพุทธศาสนาเถรวาท (๒) ศึกษาหลักธรรมเพื่อการหลุดพ้นกิเลสในพระพุทธศาสนาเถรวาทและ (๓) ศึกษาวิธีการปฏิบัติเพื่อนำไปสู่การหลุดพ้นกิเลสในพระพุทธศาสนาเถรวาท ผลการวิจัยพบว่า

                การศึกษากิเลสในพระพุทธศาสนาเถรวาท พบว่า กิเลสเป็นเครื่องทำให้ใจเกิดความเศร้าหมอง  ขุ่นมัว  ซึ่งกิเลสมีอยู่  ๓ ประเภทใหญ่ ๆ  คือ โลภะ  โทสะ  และโมหะ  แยกออกเป็นกิเลส    อย่างคือ  กิเลสอย่างหยาบ  กิเลสอย่างกลาง  และกิเลสอย่างละเอียด กิเลสเหล่านี้ล้วนเป็นเหตุปัจจัยก่อให้เกิด ตัณหา อุปาทาน และอวิชชา ตามธรรมดากิเลสนั้นมีคุณน้อย มีโทษมาก และมีความร้ายแรง  มนุษย์หากไม่ประกอบด้วยสติปัญญาเป็นเครื่องกำกับก็จะไม่สามารถรู้เท่าทันกิเลสได้  และยังก่อให้เกิดความเดือดร้อนแก่ตนเองและผู้อื่น  ไม่สามารถบรรลุมรรคผล  สำหรับนักปฏิบัติธรรมจะพิจารณากิเลสเป็นตัวการสำคัญที่คอยขวางกั้นไม่ให้มนุษย์บรรลุถึงความดีหรือความจริงอันสูงสุด 

               หลักธรรมเพื่อการหลุดพ้นกิเลสในพระพุทธศาสนาเถรวาท พบว่า ตามหลักพระพุทธศาสนามีหลักธรรมที่นำมาใช้ปฏิบัติอยู่อย่างมากมายหลักธรรมล้วนแต่เชื่อมโยงกันได้เป็นอย่างดีหลักธรรมที่เรียกว่า โพธิปักขิยธรรม  ๓๗  ประการ  คือ สติปัฏฐาน    สัมมัปธาน ๔ อิทธิบาท ๔   อินทรีย์ ๕  พละ ๕  โพชฌงค์ ๗  และ มรรคมีองค์ ๘  เป็นธรรมที่มีความสำคัญมาก  เพราะเป็นเครื่องมืออันเป็นเหตุแห่งการตัดกิเลส  แล้วก้าวสู่การบรรลุมรรคผลนิพพาน       ผู้ปฏิบัติจึงควรนำหลักธรรมเหล่านี้ไปใช้ในการปฏิบัติ เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจในการปฏิบัติเพื่อให้เกิดความหลุดพ้นจากความทุกข์ได้นั่นเอง

                  วิธีการปฏิบัติตนเพื่อนำไปสู่การหลุดพ้นกิเลสในพระพุทธศาสนาเถรวาท พบว่า  ควรดำรงชีวิตของตนที่ตั้งอยู่ในศีลเป็นเบื้องต้น  หลักธรรมที่เกื้อหนุนให้เกิดสมาธิ  คือ         หลักโพธิปักขิตยธรรม  ๓๗ ประการ  โดยการปฏิบัติสมถะและวิปัสสนากรรมฐานเพื่อประหานกิเลสอย่างหยาบ  กิเลสอย่างกลาง  และกิเลสอย่างละเอียด  ครั้นเมื่อจิตเป็นสมาธิและเข้า      สู่ญาณที่เรียกว่า วิปัสสนาญาณ มี ๑๖  ประการ ซึ่งสามารถทำให้กิเลสเบาบางได้มากตั้งแต่ญาณที่  ๑๑  สังขารุเปกขาญาณ  เป็นต้นไป จึงสามารถกำจัดกิเลสได้ด้วยปัญญาจึงจะเกิดความรู้แจ้งเห็นจริง ทำให้ผู้ปฏิบัติหลุดพ้นจากกิเลส  ได้บรรลุมรรคผล  ตั้งแต่พระโสดาบัน  สกิทาคามี  อนาคามี  และนิพพาน  ตามลำดับ

Download

 
 
สงวนลิขสิทธ์โดยมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธ์ พ.ศ. ๒๕๓๗ 
พัฒนาและดูแลโดย : webmaster@mcu.ac.th 
ปรับปรุงครั้งล่าสุดวันพฤหัสบดี ที่ ๙ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๕