หน้าหลัก ค้นหา ติดต่อ สมุดโทรศัพท์ การเรียน/การสอน เหตุการณ์ แผนที่เว็บ Thai/Eng
MCU

หน้าหลัก » นายวิชัย ศรีแก้ว
 
เข้าชม : ๒๐๐๐๐ ครั้ง
การศึกษาวิเคราะห์ความมีอยู่ของเทพในพุทธปรัชญาเถรวาท
ชื่อผู้วิจัย : นายวิชัย ศรีแก้ว ข้อมูลวันที่ : ๑๐/๐๙/๒๐๑๓
ปริญญา : พุทธศาสตรมหาบัณฑิต(ปรัชญา)
คณะกรรมการควบคุมวิทยานิพนธ์ :
  พระมหากฤษณะ ตรุโณ ผศ.ดร. ป.ธ.๓, M.A., Ph.D.
  รศ.ดร.ประเวศ อินทองปาน ป.ธ.๕, พธ.บ., อ.ม., Ph.D.
  ดร.วีรชาติ นิ่มอนงค์ ป.ธ.๖, พธ.บ., M.A., Ph.D.
วันสำเร็จการศึกษา : ๒๕๕๕
 
บทคัดย่อ

 

 

 

บทคัดย่อ

ในวิทยานิพนธ์ฉบับนี้ผู้วิจัยมุ่งที่จะการศึกษาการศึกษาวิเคราะห์ความมีอยู่ของเทพในทัศนะพุทธปรัชญาเถรวาท โดยผู้วิจัยกำหนดวัตถุประสงค์ไว้ ๓ประการ คือ (๑) เพื่อศึกษาแนวคิดเรื่องเทพในพุทธปรัชญาเถรวาท   (๒) เพื่อศึกษาประเภทและธรรมเป็นเหตุทำให้เกิดเป็นเทพในพุทธปรัชญาเถรวาท   (๓) เพื่อศึกษาวิเคราะห์ความมีอยู่ของเทพในพุทธปรัชญาเถรวาท

ผลการวิจัยพบว่า สำหรับพระพุทธศาสนานั้นถือว่าเทพเป็นสัตว์โลกชนิดหนึ่งที่เกิดมาและอยู่ภายใต้กฎแห่งกรรมแต่มีภพภูมิที่อยู่เหนือภพภูมิของมนุษย์ นอกจากนั้นพระพุทธศาสนาก็ยังเห็นว่าเทพในทางพระพุทธศาสนานั้นเดิมก็มาจากมนุษย์และมนุษย์ก็มีโอกาสบางอย่างมากกว่าเทพเช่นมนุษย์สามารถที่จะบรรลุธรรมได้ดีกว่าเทพเจ้าทั้งนี้ก็เพราะมนุษย์เป็นผู้ที่มีภพภูมิที่เหมาะสมกับการบรรลุธรรม นอกกจากนั้นจากการศึกษาก็จะพบว่าแนวคิดหรือความเชื่อเรื่องเทพเจ้าของพุทธปรัชญาเถรวาทนั้นก็มีพัฒนาการมาจากความเชื่อเทพเจ้าของศาสนาพราหมณ์แต่เป็นพัฒนาการในเชิงของการตีความหรือการนำเสนอความจริงเกี่ยวกับเทพเจ้าเสียใหม่จากเดิมที่ชาวอินเดียมีความเชื่อว่าเทพเจ้าเป็นเป้าหมายของชีวิตและเป็นผู้ที่สร้างสรรพสิ่งรวมกระทั่งมนุษย์ด้วยทำให้เพทเจ้ามีความสำคัญกับมนุษย์แง่ของการบวงสรวงบูชาเพื่อให้เทพเจ้าพึงพอใจ และสวดมนต์อ้อนวอนเพื่อให้เทพเจ้าโปรดปรานและเมตตาดลบันดานสิ่งต่างให้เกิดขึ้นกับชีวิตและสังคมของตน ซึ่งความสัมพันธ์ดังกล่าวเป็นไปในลักษณะของการพึ่งพิงอำนาจเทพ ส่วนพุทธปรัชญาเถรวาทนั้นได้สอนว่าเทพเจ้านั้นไม่ใช่สิ่งสูงสุดของเป้าหมายชีวิตมนุษย์และไม่ได้เป็นผู้สร้างสรรพสิ่งรวมกระทั่งมนุษย์ แต่เทพเจ้านั้นต่างก็เป็นเพื่อนร่วมโลกของมนุษย์และตกอยู่ภายใต้กฏแห่งกรรมคือ หลักปรัชญาที่ว่าด้วยกฎของการกระทำว่าทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว หรือเทพเจ้าก็ต้องตกอยู่ในกฎของความจริงของโลกที่ว่าด้วยสามัญลักษณะคือ อนิจจัง ทุกขังและอนัตตา ไม่อาจจะหลีกเลี่ยงกฎนี้ไปได้

อนึ่ง หากพิจารณาจากกำเนิดของเทพเจ้าพุทธปรัชญาเห็นว่าเทพเจ้ามีกำเนิดแบบโอปัปปาติกะคือแบบผุดเกิดด้วยอำนาจของกรรมดีที่ได้กระทำมาแล้วในอดีตชาติ และสามารถแบ่งประเภทของเทพเจ้าได้เป็น ๓ ประเภทหลักคือ (๑)อุปัตติเทพ (๒)สมมติเทพ (๓)วิสุทธิเทพ

การวิเคราะห์ความเป็นเทพและความมีอยู่ของเทพในพุทธปรัชญาเถรวาทพบว่าเทพซึ่งมีปรากฏในคัมภีร์พระพุทธศาสนาและในพระสูตรต่าง ๆ เช่น ในบุพกิจ ๔ ประการ ที่กล่าวไว้ว่าเช้าเสด็จโปรดสัตว์  เย็นไม่ขาดแสดงธรรม  ยามค่ำสอนภิกษุ ดึกมาทรงแก้ไขปัญหาหมู่เทพเหล่าเทวดา แสงสว่างออกมาทรงตรวจตราดูสัตว์โลก นอกจากนั้นยังมีปรากฏในพระสูตรบางบทว่าหมู่เทพทั้ง ๕ ตน ได้ร่วมกันกล่าวนะโมทั้ง ๕ บท และได้กล่าวอาราธนาเพื่อฟังธรรมจากพระพุทธเจ้าตามที่กล่าวมานี้พอแสดงให้เห็นว่าเทพมีอยู่จริง และในศาสนาพราหมณ์ได้มีการบวงสรวงอ้อนวอนขอพรจากเทพตลอดถึงพิธีกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับพิธีกรรมจะมีการบวงสรวงบูชาเทพสืบต่อกันมาจนถึงปัจจุบัน

ดาวน์โหลด

 
 
สงวนลิขสิทธ์โดยมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธ์ พ.ศ. ๒๕๓๗ 
พัฒนาและดูแลโดย : webmaster@mcu.ac.th 
ปรับปรุงครั้งล่าสุดวันพฤหัสบดี ที่ ๙ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๕