Mahachulalongkornrajavidyalaya University
MCU Home Search Contacts Study Events Site Map Thai/Eng
 
MCU

First Page » จ่าสิบเอกหญิง สุภลักษณ์ วิรักษา
 
Counter : 20035 time
การศึกษาเปรียบเทียบปฏิจจสมุปบาทในพระพุทธศาสนาเถรวาทกับทฤษฎีสัมพัทธภาพพิเศษของแอลเบิร์ต ไอน์สไตน์(๒๕๔๘)
Researcher : จ่าสิบเอกหญิง สุภลักษณ์ วิรักษา date : 21/08/2010
Degree : พุทธศาสตรมหาบัณฑิต(พระพุทธศาสนา)
Committee :
  พระเมธีรัตนดิลก
  พระมหาสุทัศน์ ติสฺสรวาที
  ศ.น.พ. ประสาน ต่างใจ
Graduate : ๒๘ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๔๘
 
Abstract

     วิทยานิพนธ์นี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาหลักปฏิจจสมุปบาทในพระพุทธศาสนาเถรวาทกับทฤษฎีสัมพัทธภาพพิเศษของ แอลเบิร์ต ไอน์สไตน์ เปรียบเทียบให้เห็นถึงความคล้ายคลึงและความแตกต่างของหลักการทั้งสอง
หลักปฏิจจสมุปบาทมีเนื้อความที่บ่งบอกถึงกระบวนการของธรรมชาติที่เป็นภาวะ อิงอาศัยกัน เมื่อเหตุและปัจจัยในหลักปฏิจจสมุปบาทเกิดขึ้นได้สร้างสิ่งที่ทำให้มนุษย์ เป็นทุกข์ ความทุกข์ของมนุษย์นั้นเกิดขึ้นเพราะความยึดมั่นถือมั่น เพราะขาดปัญญา สาเหตุพื้นฐานคือ อวิชชา (ความไม่รู้) ดังนั้น การรู้แจ้งหลักปฏิจจสมุปบาทจะทำให้เกิดปัญญา จนทำให้เข้าถึงกระบวนการแห่งการหลุดพ้นจากทุกข์ทั้งมวลของชีวิตได้ทฤษฎีสัม พัทธภาพพิเศษ แสดงว่า โลกแห่งปรากฏการณ์เป็นความจริงเกี่ยวกับอนุภาคทั้งหลายที่มีอยู่เชื่อมต่อ สัมพันธ์กันอย่างเป็นธรรมชาติ เพราะกฎทุกกฎในธรรมชาติ จะเหมือนกันหมดในทุกระบบที่เคลื่อนที่อย่างสม่ำเสมอและสัมพัทธ์กัน ซึ่งไอน์สไตน์ได้ใช้ สมการทางคณิตศาสตร์ในการเข้าถึงธรรมชาติที่ละเอียดละออ เพื่อเข้าใจปรากฏการณ์ของโลกและจักรวาลหลักปฏิจจสมุปบาทและทฤษฎีสัมพัทธภาพ พิเศษทั้งสองมีความคล้ายคลึงกันในการกล่าวถึงปรากฎการณ์หรือภาวะที่มีการอิง อาศัยกันเกิดขึ้น สิ่งทั้งหลายสัมพันธ์เกี่ยวโยงกัน โดยไม่มีความสมบูรณ์ในตัวเอง ทั้งสองต่างมีสารัตถะในความเป็นธรรมชาติที่คล้ายคลึงกันคือ มุ่งศึกษาธรรมชาติ โดยไม่ยอมรับทัศนะที่ว่า พระเจ้าสร้างโลก ส่วนความแตกต่างกันนั้นได้แก่ หลักปฏิจจสมุปบาท เข้าถึงความจริงทั้งด้านวัตถุและจิตใจ เป็นการแก้ปัญหาชีวิตได้ ส่วนทฤษฎีสัมพัทธภาพพิเศษเป็นการเข้าถึงความจริงทางด้านวัตถุเพียงอย่าง เดียว

Download : 254826.pdf

Download :
 
 
Copyright © Mahachulalongkornrajavidyalaya University All rights reserved 
Maintained by: webmaster@mcu.ac.th 
Last Update : Thursday February 9, 2012